Latest News

SCG นำหญ้าเนเปียร์ พืชพลังงานสูง มาเป็นพืชทางเลือกให้เกษตรกรปลูกทดแทนข้าวโพด แก้ปัญหาการเผาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม

          เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 ที่ จุดรวบรวมเศษวัสดุเหลือใช้ฯ บ้านหนองแหย่ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่, ดร.ภานุวัฒน์ คำใสย ผู้จัดการด้านพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด และผู้แทนจากบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ได้ร่วมกันเปิดกิจกรรมการขยายผลโครงการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานระบบนิเวศการลงทุนพืชพลังงานฯ เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ข้าวโพด) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

   

          กิจกรรมดังกล่าว เป็นการขยายผลงานวิจัยร่วมกันของ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (SCG ) กับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ที่ได้ดำเนินการจนประสบผลสำเร็จที่จังหวัดสระบุรี และขยายผลมายังอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อต้องการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการเผา ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกหญ้าเนเปียร์แทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากส่วนใหญ่พื้นที่อำเภอแม่แจ่มจะทำการเกษตรแบบพืชเชิงเดี่ยว ภายหลังการเก็บเกี่ยวจะมีเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงทำให้เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟ และเป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่นละออง PM2.5

   

          ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการ บพท. กล่าวว่า หญ้าเนเปียร์เป็นพืชพลังงานที่มีศักยภาพสูง สามารถปลูกได้ง่าย มีขอบระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่สั้นเพียง 3-4 เดือน ต่างกับการปลูกข้าวโพดที่ใช้ระยะเวลาปลูกนาน จึงทำให้สามารถคืนทุนและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เร็วขึ้น ประกอบกับเมื่อปลูกแล้วจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต่อเนื่องนาน 10-15 ปี จึงเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน และที่สำคัญไม่ต้องเผาพื้นที่เกษตรเพื่อทำการเพาะปลูกบ่อยครั้ง ถือเป็นการปลูกพืชแบบไร้ไฟ และช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่

   

          ด้าน ดร.ภานุวัฒน์ คำใสย ในฐานะผู้แทนของ SCG กล่าวว่า ทาง SCG มีนโยบายที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อน โดยหนึ่งในนั้นคือการหันมาใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเป็นเชื้อเพลิงแทนการใช้ถ่านหินลิกไนต์ในการผลิตปูนซีเมนต์ และในอนาคตจะเปลี่ยนให้ได้ถึง 100% ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง รวมถึง SCG มีความต้องการพืชพลังงานเป็นจำนวนมาก เช่น ที่สระบุรีมีความต้องการหญ้าเนเปียร์กว่า 1.7 ล้านตันต่อปี ขณะที่ลำปางก็ได้เริ่มทดลองใช้และมีความต้องการประมาณเดือนละ 1,500 ตัน ซึ่งปัจจุบัน SCG รับซื้อหญ้าเนเปียร์ที่มีอัตราความชื้นไม่เกิน 35 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ตันละ 1,800-2,200 บาท จึงทำให้เป็นที่สนใจของเกษตรกร ในวันนี้จึงได้นำหญ้าเนเปียร์มาขยายผลปลูกในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรอำเภอแม่แจ่ม

   

          ด้าน นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การได้รับความร่วมมือจาก บพท. และ SCG ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพราะสามารถช่วยลดปริมาณเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟของอำเภอแม่แจ่มได้เป็นอย่างดี แม้ว่าปัญหาในเรื่องต้นทุนค่าขนส่งจะเป็นปัญหาหลัก แต่ทาง SCG ก็มีความยินดีที่จะให้การสนับสนุน โดยมองถึงหลักธรรมาภิบาลและคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเป็นหลัก ส่วนการจะนำหญ้าเนเปียร์มาปลูกทดแทนการปลูกข้าวโพดในอำเภอแม่แจ่มนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้ได้ก่อน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้วางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำในอำเภอแม่แจ่ม สำหรับรองรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเพาะปลูกในพื้นที่ที่ได้สิทธิที่อยู่อาศัยทำกินจาก คทช. แล้ว โดยใน 5 ปีต่อจากนี้ จะมีพื้นที่ที่มีน้ำเข้าถึงกว่า 1 แสนไร่

   

ข่าว :  ขิมมภัทร์ แสนขันธ์

บรรณาธิการข่าว :  ว่าที่ ร.ท.กาณฑ์ โสภโณดร

สำนักข่าวลานนาเพรส



เขียนข่าวโดย :: Editor
วันที่ :: 08 พฤษภาคม 2567
เวลา :: 11:33:21

ข่าวอื่นๆ ในหมวดนี้ [ ข่าวทั่วไป ]